วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

พระขุนแผนเคลือบสีขาว แตกกรุที่วัดบ้านกลิ้ง ที่คนยังไม่รู้ วัดบ้านกลิ้ง


***...ถ้าจะกล่าวถึงพระขุนแผนเคลือบแล้ว ต้องยกให้พระขุนแผนเคลือบ  [กรุวัดใหญ่ชัยมงคล] เพราะพระขุนแผนเคลือบ แห่งวัดใหญ่นั้นถือได้ว่า เป็นต้นตำหรับของพระขุนแผนเคลือบ เลยก็ว่าได้...

 สนใจติดต่อ 062-226-4845
ด้านหน้า ของพระขุนแผนเคลือบขาว [ไข่มุข] สุดยอดพระขุนแผนเคลือบ แห่งวัดบ้านกลิ้ง ที่ยังไม่เคยปรากฏที่ไหนมาก่อน

แต่องค์ที่นำลงมาโชว์ ในบล็อกนี้ ถือได้ว่าเป็น องค์ครูที่ทั้งสภาพสมบูรณ์และสวยงาม ไม่แพ้พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดอื่นๆเลย  แต่ทำไมไม่มีคนรู้จัก และยังไม่เคยเห็นตามสื่อต่างๆ อาจเป็นเพราะมีหลายกรณี หรืออาจสร้างมาน้อย หรือว่ายังไม่มีคนรู้จักกันแน่

ชื่อพิมพ์ ของพระองค์นี้ มีชื่อพิมพ์ว่า พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์อกใหญ่ ฐานเตี้ย
พิมพ์นี้ผมตั้งชื่อขึ้นมาเองครับ ไม่ได้อวดรู้นะครับ แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า ผมไปค้นหาข้อมูลตามเว็บต่างๆก็ไม่เห็นมีใครเอาลงมาโชว์ ก็เลยไม่ทราบว่าจะตั้งชื่อว่า พิมพ์ อะไร ผมก็เลยตั้งชื่อ พิมพ์ให้ท่านซะเลยครับ
แต่ผมขอยืนยันว่า พระขุนแผนเคลือบขาวไข่มุข องค์นี้ เป็นพระขุนแผนแคลือบที่แตก กรุออกมาจากวัดบ้านกลิ้ง ก่อนเป็นข่าวปี 5o แน่นอนครับ ผมก็ไม่ทราบว่าทำไมพระแท้ดูง่ายขนาดนี้ยังไม่มีใครนำมาเปิดเผยเพื่อเป็น วิทยาทานแก่คนรุ่นหลัง เพื่อได้ศึกษาและเป็นการอนุรักษ์พระเครื่องไทยสืบต่อไป เอาเป็นว่า ผมจะนำเรื่องราวประวัติของพระกรุนี้ให้ฟังกันนะครับ ว่าดีเด่นในด้านใด 
พระขุนแผนเคลือบขาว ไข่มุข พิมพ์ใหญ่ ฐานเตี้ย ดีเด่น ทางเมตตา มหาลาภ ป้องกันนิรันตรายทั้งปวง และที่สำคัญ ผมยืนยันได้เลยว่า กันคุณไสยได้  ด้วย
ผมจะขอเล่าประสบการณ์ เรื่องที่ว่านี้ได้เกิดขึ้นมื่อประมาณต้นปี 52 เรื่องมีอยู่ว่า ผมไปเช่าพระขุนแผนเคลือบ เนื้อขาวมาจากลุงคนหนึ่ง "ชื่อลุง นาย" ลุงนายแกเป็นทหารเรือเก่า ครั้งนั้นผมยังไม่รู้จักกันกับลุง นาย เลยครับ แต่อยู่ๆวันนั้นผมเดินผ่านลุง ลุงก็เลยทักผมว่า.  หนุ่ม เอ้ยย! ไม่สนใจเช่าพระดีดี ไว้ติดตัวบูชาบ้างเหรอ
ด้วยความที่คนไม่เคยรู้จักมักคุ้นกันมาก่อน ผมก็หยุดชะงักและถามลุงว่า พระที่ว่าเป็นพระอะไรเหรอครับลุง ลุงแกก็บอกว่าเป็นพระขุนแผนเคลือบกรุ วัดบ้านกลิ้ง ที่เพิ่งแตกกรุออกมา ตอนนั้นผมยังไม่รู้จักเลยว่ามีพระขุนแผนเคลือบกรุ วัดบ้านกลิ้ง แตกกรุออกมา แต่มีเหตุผลเดียวที่ผมกล้าเช่าพระจากลุงโดยที่ผมไม่ลังเลสงสัยก็คือ พอผมได้ส่องดูรายละเอียดของพระแล้ว ไม่ใช่การสร้างของคนยุคใหม่เป็นแน่ ผมก็เลยถามลุงว่า ราคาเท่าไหร่ครับลุง  ลุงบอกว่ามันมีหลายพิมพ์และหลายแบบนิยมต่างกัน ราคาก็ต่างกัน
พอผมเริ่มต่อรองราคาพระกับลุงอยู่ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมากมามุงล้อมดูพระขุนแผนเคลือบกับลุง ผมจำได้ว่า มีคนในวงการพระเคลื่องและพวกทหารตำรวจจำนวนมากมาเช่าหาจากลุงด้วย เช่ากันไปคนละหลายองค์พอสมควร สุดท้ายแล้วผมไม่รอช้าเลย ถ้าฝืนรอช้ากว่านี้ผมคงไม่มีวาสนาได้ครอบครองพระขุนแผนเคลือบสวยๆแบบนี้อีกแน่ ผมตัดสินใจเช่ากับลุงเลยในขณะนั้น รวมเป็นเงินหลายแสนบาท เพราะด้วยเหตุที่พระเครื่องสวยๆแบบนี้ไม่ค่อยปรากฏตามตลาดทั่วไป และผมก็ไม่ได้ปรึกษาจากใครเลย ด้วยความคิดส่วนตัวที่ว่า  *** เงินเราแท้ เราต้องเอาความรู้แท้ของเราซื้อของเอง โดยไม่ปรึกษาใครเลย...
ผมก็ได้พระขุนแผนเคลือบมาหลายพิมพ์ทรงอยู่เหมือนกัน  แต่ทุกพิมพ์ที่ได้มาผมขอกล่าวความจริงว่า มีประสบการณ์ทุกองค์เลยครับ ประสบการณ์ของแต่ละพิมพ์ก็เกิดขึ้นกับญาติและเพื่อนๆของผมเอง เพราะผมได้แจกพระกรุนี้ให้พี่น้องคนละองค์ครับ



เรื่องที่ว่ากันคุณไสย ได้ก็คือ    "พระขุนแผนเคลือบขาว ไข่มุข"    นี่หล่ะครับ  เรื่องมีอยู่ว่าพอผมเช่าพระขุนแผนมาจากลุง นาย แล้วพอผมกลับมาถึงบ้าน พี่หนอม ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายช่าง พอผมเอาพระขุนแผนเคลือบขาวให้พี่หนอมดู ปรากฏว่า พี่หนอมก็เกิดความชอบขึ้นมาทันทีทันใด พี่หนอมก็เลยถามผมว่า จะปล่อยไหม ราคาเท่าไหร่  ผมก็เลยตอบพี่หนอมว่า ผมจะแบ่งให้ไปบูชาสักองค์ครับ พอพูดจบประโยคพี่หนอมก็เช่าไปองค์หนึ่ง คือ พระขุนแผนเคลือบขาว ไข่มุขนี่หล่ะครับ
พอเช่าไปยังไม่ถึงบ้านเลย เพื่อนของพี่หนอมที่เป็น [อบต.] อยู่ขณะนั้นก็ชวนพี่หนอมออกงานต่อที่ต่างจังหวัด ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็น จังหวัดสุรินทร์หรือศรีสะเกษนี่ล่ะครับ พอไปถึงจังหวัดที่ว่าไม่นานนัก  ในช่วงขณะที่รอการประชุม  ประมาณสัก 20 นาทีได้  ปรากฏว่าในช่วงขณะที่นั่งรอการประชุมอยู่ พี่หนอมแกก็นั่งอยู่เก้าอี้ นั่งดื่มโค้กอยู่อยู่คนเดียว ปรากฏว่ามียุงตัวขนาดใหญ่กว่าปกติ บินมากัดตรงมือด้านซ้ายของพี่หนอม พอกำลังจะใช้มือตบ มันก็บินโฉบหนีไป
แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก มือข้างซ้ายทั้งข้างได้ชาไปหมดเหมือนคนไม่มีแรงเลย และก็ค่อยๆรามขึ้นมาที่หัวไหล่ จนรู้สึกได้ว่าเหนื่อยไปทั้งตัว แต่ในที่สุดความชามันก็มาหยุดตรง กระเป๋าเสื้อด้านซ้ายมือพอดี พี่หนอมก็เลยสงสัยตรงที่ว่า ไอ้ความชามันวิ่งไปทั่วร่างกายไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย แต่มันกลับมาหยุด "ชะงัก" ตรงถุงเสื้อด้านซ้าย ตรงตำแหน่งหัวใจพอดี พี่หนอมก็เลยเอามือมาจับดู ผลปรากฏว่ามี ขุนแผนเคลือบขาว ไข่มุข กรุวัดบ้านกลิ้ง ติดอยู่ในถุงเสื้อพอดี ลองนึกภาพดูนะครับว่า เป็นเรื่องบังเอิญ หรือเป็นเรื่อง พุทธคุณ ผมก็ไม่อาจอธิบายได้
พอพี่หนอมเสร็จจากการประชุมแล้ว กลับมาถึงบ้าน ที่จังหวัดนครปฐม อาการที่ว่านี้ก็ยังไม่หายอีก เป็นเวลา สองวัน ก็เลยตัดสินใจไปหาหมอ ผลการตราจของคุณหมอก็บอกว่าอาการปกติทุกอย่าง สุขภาพ แข็งแรงดีทุกประการ แต่อาการก็ยังมึนชาอยู่ จนกระทั่งพี่หนอม  อดสงสัยในอาการของตัวเองไม่ได้ จึงมาปรึกษากับผม ตอนที่พี่หนอมมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ให้ผมฟัง ผมยังสังเกตุเห็นผิวพรรณ เหลืองซีดไปทั้งตัวอย่างเห็นได้ชัด และใบหน้ายิ่งเหลืองมาก จนผมรู้สึกตกใจมาก แต่โดยส่วนตัวของผมเอง ผมคิดว่าโดน คุณไสย แน่ๆครับ





วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

หรียญ หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชโต แห่งวัดพระญาติการาม พิมพ์ขอเบ็ด [นิยม]







 

***...ถ้าจะกล่าวถึงเหรียญที่นิยมที่สุดในยุคนี้ ก็อาจจะกล่าวได้ว่า [เหรียญของหลวงพ่อกลั่น พิมพ์ขอเบ็ด] แห่งวัดพระญาติ การาม เป็นเหรียญยอดนิยมที่สุดและยังจัดอยู่ในชุดเบญจภาคีเหรียญยอดนิยมอีกด้วย นับว่าเป็นเหรียญทองแดงที่แพงที่สุดในโลกก็ว่าได้...


ภาพเหรียญแท้  หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ พิมพ์ขอเบ็ด [นิยม]

หลวงพ่อกลั่น ธมฺมโชติ
หลวงพ่อกลั่น ท่านเกิดในปี  พ.ศ. 2390 ตรงกับปลายรัชสมัย  พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา  เจษฎาบดินทร์  พระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว  ต. อรัญญิก  อ. นครหลวง จ. พระนครศรีอยุทธยา  ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีฐานะยากจน ได้ให้กำเนิดเด็กชายผู้มีบุญมาเกิด นามว่า  "กลั่น"  ในสมัยเด็กท่านต้องช่วยพ่อแม่ทำงานตามลำพัง และเพียงลำพังอยู่คนเดียว จึงทำให้ท่านเป็นคนเข็มแข็งเด็ดเดี่ยวมาแต่เด็ก จนกระทั่งอายุได้  27  ปี

ท่านได้อุปสมบท  ณ.  วัด  โลกยสุธาศาลาปูน   โดยมี  พระญาณไตรโลก  [สะอาด]   ต่อมาเป็นพระธรรมราชานุวัตร   [อาจ]  เจ้าคณะใหญ่ อยุทธยา  เป็นพระอุปัชฌาย์  พระครูกุศลธรรมธาดา  วัดขุนยวน   [วัดพรหมนิวาส]  กับพระอธิการชื่น  วัดพระญาติ การาม  เป็นคู่สวด  "ได้ฉายาว่า  ธมฺมโชติ  แปลว่าเป็นผู้สว่างในพระธรรม"  หลังจากนั้นท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดประดู่ทรงธรรม  ท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย และได้เรียนรู้ วิชาอาคม  จนแตกฉาน  เมื่อฝึกฝนวิชาต่างๆจนเชี่ยวชาญแล้ว  จึงได้ออกธุดงค์ไปทั่วป่าเขาลำเนาไพร เผชิญกับสัตว์ร้ายนานาชนิด


ออกธุดงค์ มาถึงวัดพระญาติการามในเวลาคํ่า  ท่านได้พิจรณาว่า  วัดนี้เงียบสงบดีเมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรม  สามารถทำสมาธิและเจริญวิปัสสนากรรมฐานได้สะดวก  ท่านจึงได้ปักกลดพักอยู่บริเวณวัดในคืนนั้น  หลวงพ่อกลั่นท่านยังมี  วิชาลูกเบา หรือวิชาคงกระพันชาตรี  ซึ่งเป็นวิชาอยู่ยงคงกระพันวิชาหนึ่งของท่าน  อำนาจจิตของหลวงพ่อกลั่นนั้นมีมากมาย  เรื่องนี้หลวงพ่อ " อั้น"  ลูกศิษย์  ของหลวงพ่อกลั่นท่านเล่าให้ฟัง


"หลวงพ่อกลั่นท่านถึงแก่มรณะภาพเมื่อปี  พ.ศ.  2477  ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระปรกเกล้าเจ้าอยู่หัว"





วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

Thai, amulets,and Small Buddha Images,ว่านจำปาสัก หรือ พระเครื่องจำปาสัก รูปภาพองค์จริงให้นักนิยมศึกษากันครับ



***...พระยอดขุนพล หรือ พระว่านจำปาสัก จัดเป็นพระเครื่องที่ได้รับความ
   นิยมมาก ในครั้งอดีตกาลก่อน...



พระว่านจำปาสัก องค์แท้ จากลาว ให้ศึกษากันดู

คนยุคก่อนจะมีความเชื่อในเรื่อง คงกระพันชาตรีและเรื่องมหาอุด เป็นอย่างมาก เพราะด้วยเหตุสมัยที  คนโบราณสมัยก่อนอยู่ในช่วงแห่งสงคราม หาที่พึ่งได้ยาก จึงจำเป็นต้อง อาศัยเครื่องราง ของขลังและพระเครื่องต่างๆ พกติดตัวเพื่อป้องกันภัย

หนึ่งในพระเครื่องเหล่านั้น  "คนสมัยก่อนทางภาคอีสาน  รู้จักกันดีก็คือ  พระว่านจำปาสักนั่นเอง"  พระว่านจำปาสักว่ากันว่า  สร้างมาจากว่าน  มีความเก่าแก่มากมีถิ่นกำเหนิดมาจากประเทศลาว  หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม  แคว้นจำปาสักนั่นเอง

พระว่านจำปาสักนั้น  "มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวก็คือ  มีความเหี่ยวย่น  บิดตัวและมีความเบามาก  ความเหี่ยวย่นที่ว่านี้  {อุปมา- อุปมัย}  คล้ายๆผิวคนแก่"  ให้ลองนึกจินตนาการดูผิวของคนแก่ดูนะครับ  พระจะมีความเก่าและแห้งมาก

คนสมัยโบราณมักจะสร้างบรรจุไว้ตามยอด  พระเจดีย์ต่างๆ  เพราะเชื่อว่าพระว่านจำปาสักเป็นของสูงและที่สำคัญ  คนโบราณยังเชื่อว่าป้องกันฟ้าผ่าได้อีกด้วย  อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้เอง  คนโบราณจึงมักนิยมนำเอา  พระว่านจำปาสักนี้บรรจุไว้ตามเจดีย์ต่างๆ  อาจจะเพื่อป้องกันฟ้าผ่าตามความเชื่อโบราณก็เป็นได้

หรืออาจจะเรียก  แบบบ้านๆ ว่า  "พระยอดขุนพลเมืองอีสานก็ว่าได้"  โดยพิมพ์ทรงของพระว่านจำปาสัก จากรายละเอียด โดยรวมแล้วดูคล้าย  พระท่ากระดานกรุวัดศรีสวัสดิ์มาก

ในทางด้านพุทธคุณ  นักนิยมพระยุคก่อนเชื่อมากในด้านมหาอุดและคงกระพันชาตรีเป็นเลิศ  แต่ในปัจจุบันนี้ยังไม่ทราบแน่นอนว่ามีดีด้านอื่นอีกไหม
ด้านหลัง พระว่านจำปาสัก เหี่ยวย่นสวยงาม
พระว่านจำปาสักในสมัยก่อน  ยังไม่ค่อยมีราคาและยังไม่นิยมซื้อขายกันเท่าไหร่นัก  แต่โดยส่วนมากคนแก่มักจะให้รุ่นลูก  รุ่นหลานเก็บไว้บูชาหรือให้ไว้เพื่อเป็นสิริมงคล  แต่ทุกวันนี้กลายเป็นของเก่าหายากซะแล้ว  มิหนำซํ้ายังมีของเก๊ออกมาวางขายตามตลาดมากมาย  แต่ของเก๊ก็ยังทำได้ไม่เหมือนเท่าไหร่ครับ



วันพฤหัสบดีที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2557

Small, Buddha, Image.พระขุนแผนเคลือบ ""สีเขียว"" ตามตำราโบราณ..>>> พิมพ์แขนอ่อน

                                            

        ***...พระขุนแผนเคลือบ สีเขียว พิมพ์แขนอ่อน ตามตำราโบราณ...แตกกรุที่วัดบ้านกลิ้ง จ. อยุธยา...



ส่วนของด้านหน้า ของขุนแผน พิมพ์ แขนอ่อนกรุวัดบ้านกลิ้ง

***...ตามตำราการสร้างพระขุนแผนเคลือบ  สมัยโบราณกาล  การเคลือบนํ้ายาสีเขียว นั้นหมายถึง วรรณะ ของผู้ทรงศีล...


พระขุนแผนเลือบ พิมพ์  แขนอ่อน  ก็เป็นอีกพิมพ์หนึ่งที่งดงามด้วย พุทธศิลป์  ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ถ้าสังเกตุให้ดีก็จะเห็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ครบถ้วนสมบูรณ์  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเส้นสายรายละเอียดของแม่พิมพ์  ซึ่งต้องอาศัยการแกะบล็อกด้วยมือ บรรจงวิจิตรด้วยใจ  อย่าลืมนะครับว่า คนที่จะแกะบล็อกพระเครื่องได้สวยขนาดนี้ได้  ถ้าไม่ใช่ช่างฝีมือจากวังหลวงแล้วล่ะก็  ไม่มีทางแกะบล็อกได้สวยงามขนาดนี้เป็นแน่
เพราะว่าในสมัยก่อนคนจะทำพระเครื่องแต่ละอย่าง  ต้องใช้ทั้งความรู้ ความสามารถ หลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพิมพ์ทรง เรื่องการผสมว่าน  เรื่องการใช้ผงพุทธคุณแต่ละอย่าง  และฤกษ์ยามที่เมาะสมกับพิธีกรรมนั้นๆ ว่าควรจะปลุกเสกในช่วงเวลาใด  ฉะนั้นการสร้างพระเครื่องของคนสมัยโบราณจึงทำได้ถูกต้องแม่นยำ ตามตำราทุกประการ และเจตนาการสร้างก็ดีเยี่ยม  จึงทำให้พระเครื่องที่ทำออกมาแต่ละกรุ  มีพุทธานุภาพ เข็มขลัง
อย่างที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และเป็นที่เสาะแสวงหาของนัก  นิยมพระเครื่อง  ทุกยุคทุกสมัย  อย่างที่ว่านั่นแหละครับ  คนโบราณสมัยก่อน  ยังมีจิตใจที่บริสุทธิ์ เชื่อฟังตามคำสอนของพระศาสนา  เกรงกลัวต่อบาปบุญ เป็นหลัก  เวลาจะทำอะไรก็ทำด้วยความเคารพ 
บทวิเคราะห์  สำหรับแผ่นทองเปลวในองค์  พระขุนแผนเคลือบ  พิมพ์แขนอ่อน  ถ้าสังเกตุให้ดีจะเป็นแผ่นทองโบราณ และจะมีขนาดใหญ่กว่าแผ่นทองเปลวในสมัยทุกวันนี้มากครับ  ด้วยเหตุผลอะไรก็ลองพิจารณาดูก็แล้วกันว่าใหญ่ขนาดไหน และสีของทองเปลวก็จะเป็นสีเหลืองนวลๆ สวยงาม
คราบกรุที่ติดมาก็เป็นคราบธรรมชาติ  แบบนี้ไม่ได้มีการเสริมเติมแต่งแต่ประการใด  เพราะผมกลัวว่า  คนรุ่นหลังจะไม่เข้าใจในลักษณะของคราบกรุที่แท้จริงเป็นอย่างไร  แต่ผมจะนำมาลงให้ชมกันหลายๆองค์ เพื่อเป็นวิทยาทาน ถือว่า  เราได้นำเรื่องจริงมาเปิดเผยแก่  สาธารณะชน  ให้ผู้ที่พอมีความรู้ได้พิจารณาดูตามภูมิความรู้ก็แล้วกันนะครับ  





 

ให้วิเคราะห์ดูด้านหลังนะครับ  ว่าลักษณะอย่างนี้  เกิดจากอะไร  แต่ส่วนตัวผมเองคิดว่า น่าจะเกิดจากการดันตัวของอ๊อกซิเจน  ถ้าใครเคยสังเกตุเห็นโคลนตมตามหนองนํ้าต่างๆ   เวลาอากาศมันดันตัวออกมาก็จะมีลักษณะแบบนี้เลย  หรือถ้าอยากจะรู้จริงๆ  ให้ลองไปศึกษาจากบริเวณที่มีควายนอนโคลนอยู่จะสังเกตุได้ง่ายมาก  เพราะบริเวณโคลนที่ควายนอนอยู่นั้น  โคลนจะมีลักษณะที่ละเอียดมาก  เวลาอ๊อกซิเจนมันดันตัวออกมาจากโคลน  จะมีลักษณะ   คล้ายๆ กับภาพด้านหลังของพระขุนแผนเคลือบเขียวองค์นี้เลย

บางทีผมนึกจินตนาการไปถึงดาวอังคารโน้น  เพราะว่าการศึกษาพระเครื่องต้องใช้จินตนาการถึงความเป็นไปได้ของธรรมชาตินั้นๆด้วย  เพราะของเก๊  ยังทำไม่ได้เพราะยังไม่เข้าใจ  ในระบบของธรรมชาติที่แท้จริง  นี่แหละที่คนเล่นพระยุคก่อนบอกว่า  ต้องเข้าใจธรรมชาติของพระแต่ละกรุ  แล้วเราก็จะเข้าใจ  ในธรรมชาติของพระแท้นั่นเอง  นี่ก็เป็นสัจธรรมของการศึกษาพระเครื่องอีกวิธีหนึ่ง

เมื่อก่อนผมเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง  แต่จำชื่อหนังสือไม่ได้  แต่ในหนังสือได้อธิบายไว้ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีทดลองว่า  เป็นพระกรุจริงไหม  วิธีการก็คือ  ให้นำพระที่แตกออกมาจากกรุใหม่ๆ  ให้ทดลองนำพระกรุนั้นลงไปแช่ในแก้วนํ้าที่สะอาด  และให้สังเกตุการณ์ดูชั่วครู่หนึ่ง  จะปรากฏว่ามีฟองนํ้าผุดขึ้นมาถี่ยิบ  เหมือนฟองเบียร์บ้าง  เหมือนฟองโซดาบ้าง  เหมือนฟองนํ้าอัดลมบ้าง

ผมก็อดนึกสงสัยไม่ได้ว่า  แล้วผมจะหาพระกรุที่แตกขึ้นมาใหม่ได้จากที่ไหน   ผมได้อ่านหนังสือเล่มนั้นมาก็หลายปีแล้วแต่ก็ยังสงสัยในการบอกกล่าวของนังสือเล่มนั้นอยู่  สุดท้ายด้วยความเป็นคนชอบอ่าน และชอบสงสัย  พอผมได้พระขุนแผนเคลือบกรุวัดบ้านกลิ้งมา  แทนที่ผมจะวิ่งไปหาเซียนหรือผู้รู้ 

เรื่องพระขุนแผน  ผมไม่ไปครับ   เพราะผมซื้อมาแพงมาก   สิ่งที่ผมเชื่อในตัวผมเองคือความรู้และความสงสัย  สุดท้ายผมหยิบแก้วสะอาดมาหนึ่งใบ  พร้อมกับนํ้าสะอาคมาหนึ่งขวด  และอุปกรณ์อื่นๆอีกที่พอจะช่วยทำความสะอาดได้  ใจของผมสั่นระทึกและจดจ่อในสิ่งที่ผมได้เล่าเรียนมาว่า   จะมีผลปรากฏเหมือนดั่งตำราว่าเอาไว้หรือไม่  พอผมจุ่มพระขุนแผนเคลือบ พิมพ์แขนอ่อน หน้าตั๊กแตน  ลงแก้วเป็นองค์แรก ผลปรากฏว่า  โอ้!!!   สิ่งที่ผมได้ศึกษารํ่าเรียนมาไม่สูญเปล่าจริงๆ ครับ

มีฟองนํ้าพุ่งขึ้นมาจากองค์พระถี่ยิบเลย  จนทำให้ผมตกใจมาก   ในความรู้สึกของผมตอนนั้นผมคิดได้อย่างเดียวเลยว่า  เราต้องรีบเอาพระออกจากแก้วนํ้าเดี๋ยวนี้  มิฉะนั้นพระคงแตกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆแน่  พอผมได้รีบหยิบพระออกมาจากแก้วนํ้า  ผมก็เอากล้องส่องพระมาส่องดูความเสียหาย  แต่ผลปรากฏว่าทุกอย่างเป็นปกติ  ไม่มีอะไรเสียหายเลยครับ  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาผมได้เรียนรู้คำว่า  "  สัจจะ ที่แปลว่าความจริง"   ในการทดลองค้นคว้าจากตำราและจากประสบการณ์ของตัวเอง  ทีนี้เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว  ต่อให้เซียนไหนมาสวดพระของเราว่าเก๊  เราก็ไม่ได้ตำหนิเขาเลย  เพราะการเรียนรู้ของคนไม่เท่ากันจริงๆ



สุดท้ายนี้ขอให้คนที่เข้ามาอ่านในบทความนี้ได้นำวิธีคิด  วิธีค้นคว้าเพื่อให้ตัวเองรู้แจ้งรู้จริงด้วยนะครับ ขอให้โชคดีทุกๆคน  สวัสดีครับ