วันนี้เป็นวันดีใกล้ปีใหม่ไทย ก็เลยอยากโชว์ พระขุนแผนเคลือบกรุวัดบ้านกลิ้ง องค์สวยๆอีกสักองค์ครับ

<<<***..ยอดตระกูลขุนพลแห่ง "กรุงสยาม" ที่เปลี่ยมด้วยพุทธศิลป์และพุทธคุณ ที่บรรพบุรุษบรรจงสร้างสรรค์ด้วยฝีมือจากหัตถกรรม..***>>> สนใจติดต่อ .062-226-4845 คุณตี๋

ด้านหน้า ขุนแผนเคลือบ กรุวัดบ้านกลิ้ง พิมพ์ฐานสูง พิมพ์นี้ ถือว่า ได้รับความนิยมมากที่สุด กว่าทุกพิมพ์ เพราะเป็นพิมพ์ทรงที่ดู "ชลูด" และดูสมดุลทุกประการ

ส่วนด้านหลังจะเห็น รอยนิ้วมืออย่างชัดเจน

เปรียบเทียบ พระองค์จริงของ พระสมเด็จขุนอินทร์ประมูล กับ หนังสือเล่มที่ ๒ จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

***...สิบปากว่า ไม่เท่าหนึ่งตาเห็น...กับข้อถกเถียงระหว่างเซียนกับความจริงที่มีมูลเหตุที่มา เราลองมาวิเคราะห์ดูว่าการที่วงการไม่ยอมรับว่า พระสมเด็จวัดขุนอินทร์ประมูลไม่ทัน <<<สมเด็จโต>>> ท่านสร้างแต่ดูรายละเอียดโดยรวมแล้วพระกรุนี้ยังน่าศึกษาและสะสมอยู่ดี เพราะด้วยเหตุที่ว่ารูปทรงของพระสวยงาม เก่าแก่และมีพุทธศิลป์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนกรุอื่น แต่ยังคงความเป็นสมเด็จที่เก่าแก่ดูคล้ายคลึง สมเด็จวัดระฆังอยู่หลายประการที่ควรศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เราลองมาดูภาพกันดีกว่าครับ ภาพโดย ตี๋ อรรรส พระเครื่อง... 

พิมพ์ พระประธานฐานหนุน

 


ด้านหลัง

อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐโดย บาราย ฉบับที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ดูเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ครับ http://thairath.co.th/column/pol/kumpee/306798/ฉบับที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ สมเด็จวัดขุนอินท์-ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ดูองค์จริง พระสมเด็จขุนอินทร์ประมูล พิมพ์ พระประธานฐานหนุน (นิยม)

***...พระสมเด็จ ขุนอินทร์ประมูล... มาชมองค์จริงกันดูนะครับว่าสภาพของพระที่แตกกรุออกมาจะเป็นลักษณะอย่างไร โดยรวมแล้วพระสมเด็จ ขุนอินทร์องค์นี้ ถือว่าสมบูรณ์มากรวมทั้งสภาพขี้กรุที่เกาะติดมากับองค์พระและพิมพ์ทรงที่ถูกต้อง พิมพ์นี้มีชื่อพิมพ์ว่า พิมพ์พระประธานฐานหนุน ดูคราบให้ดีดีจะเห็นเป็นลักษณะแคลเซียมสีอมแดงมอยๆ หรือคล้ายสีชมพูครับ ถ้าพระสมเด็จขุนอินทร์องค์ไหนมีคราบสีดั่งกล่าวมา ยิ่งเพิ่มความแท้ดูงายในการพิจารณาอีกแบบหนึ่ง แต่บางองค์ก็ไม่มี ส่วนภาพด้านหลังของสมเด็จองค์นี้จะเห็นรอยพระทับกันชัดเจน...ส่วนด้านหลังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยในการพิจารณา เพราะพระที่อยู่ในกรุเป็นเวลานานๆย่อมทับกันอยู่จะต้องมีร่องรอยของการทับกันอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ทุกองค์เช่นกันครับ แต่ถ้าองค์ไหนมีก็ช่วยฟันธงว่าแท้ได้ง่ายยิ่งขึ้น   ### เปิดราคาที่ 4,5000 ฿.

 






สมเด็จขุนอินท์ประมูล พิมพ์พระประธาน ฐานหนุน [นิยม]

 

ส่วนด้านหลัง ของพิมพ์พระประธาน ฐานหนุน

  

เหรียญครูบาเจ้า ศรีวิชัย เนื้อเงินลงยา แจกกรรมการ 2482

เหรียญครูบาเจ้า ศรีวิชัย ๒๔๘๒

เป็นเหรียญ เนื้อเงินลงยา สร้างในปี ๒๔๘๒  สร้างเพื่อแจก กรรมการ    น่าเสียดายองค์นี้ ผู้มีบารมี นิมนต์ไปเก็บขึ้นหิ้งเรียบร้อยแล้วครับ

เพราะเหตุใดทำไมคนไทยจึงนิยม เรียก พระพิมพิ์ ปางมารวิชัย ว่า พระขุนแผน

  ***...ขุนแผน หรือ พลายแก้ว... และอีกชื่อหนึ่งที่คนไทยรู้จักกันก็คือ พระขุนแผน เพราะเหตุใดจึงเรียกชื่อว่าอย่างนี้... 

คราบสีขาวๆ รอบๆองค์พระ คนโบราณเรียกไข่ยุง

                   ในความเป็นจริงแล้ว  ชื่อนี้ก็มาจาก  พระพพุทธรูป ปางมารวิชัย นั่นเอง [มาน-วิ-ชัย]  ก็คือ ชื่อ พระพุทธรูปปางหนึ่ง  ที่มีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ  พระหัตถ์ซ้ายหงายวางบนพระเพลา [หน้าตัก]  พระหัตถ์ขวาวางคํ่าลงพระชานุ [หัวเข่า]   นิ้วพระหัตถ์ชี้ลงที่พื้นธรณี ในควาวที่พระพุทธองค์ทรงเอาชนะมารได้ หรือบางครั้งก็เรียก ปางมารวิชัย บ้างก็เรียก ปางชนะมาร และปางสะดุ้งมารก็เรียกได้

แต่ชื่อ พระขุนแผน นั้นได้เกิดขึ้นภายหลัง อาจจะเกิดจากภาพสะท้อนมาจาก วรรณกรรมเรื่อง  ขุนช้างขุนแผน ซึ่งตามเรื่องราวที่ได้กล่าวและอธิบาย ในประวัติของ  ขุนแผน แล้วนั้นก็พอทราบได้ว่า ขุนแผนก็คือ นักรบและมีวิชาอาคมที่แก่กล้า อย่างที่เคยได้ยินว่า ขุนแผนเคยผ่าท้องของภรรยาของตัวเอง เพื่อจะเอาเด็กในท้องมาทำเป็นกุมารทองนั่นเอง

บทวิเคราะห์  ทำไมคนในยุคก่อน จึงนิยมเรียกพระพิมพ์ ปางมารวิชัย กรุวัดบ้านกร่าง ว่า พระขุนแผน สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจาก ขุนแผนหรือพลายแก้ว  ได้มีชาติกำเนิดที่ จังหวัด สุพรรณบุรี  เมื่อมีคนนำพระกรุนี้มาบูชาขึ้นคอ แล้วปรากฏว่า มีประสบการณ์หรือ พุทธคุณ โดดเด่นในเรื่อง เสน่ห์ เมตตา มหานิยมและคงกระพันชาตรี

เรื่องที่ว่า เสน่ห์ ก็คือ การเกี้ยวสาวหรือจีบสาวนั่นเอง  เมื่อชายนำมาบูชา อาราธนาขึ้นคอ แล้วอธิษฐานตามใจหมาย ก็เป็นอันว่าได้เรื่องแทบทุกคน คนในยุคก่อนท่านเล่ามาแบบนั้น  จนเป็นที่เล่าขานในหมู่ผู้ที่นิยม พระขุนแผนว่า ใครเล่นพระขุนแผนจะทำให้จนทรัพย์ แต่รวยสาวๆ ว่างั้นเถอะ  ข้อนี้จริง ไม่จริงต้องพิสูจน์กันเอาเองครับ

คนในยุคก่อนเมื่อได้ พระพิมพ์ ปางมารวิชัย มาไว้บูชาแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตั้งชื่อให้ พระพิมพ์ว่าอย่างไรดี ด้วยความเก่าแก่และงดงามด้วยพุทธศิลป์ พร้อมกับพุทธคุณโดดเด่น ในเรื่องเสน่หา ก็เลยนึกถึง  ขุนแผนแสนสะท้าน ผู้เป็นตำนาน ในเรื่องมหาเสน่ห์ และทั้งยัง ขุนแผนก็มีชาติกำเนิดที่ จังหวัด สุพรรณบุรีอีกด้วย  ด้วยเหตุนี้เองจึงตั้งชื่อให้พระพิมพ์นี้ว่า พระขุนแผน และชื่อของพระพิมพ์ขุนแผนนี้ ยังมีของกรุอื่นๆอีกมากมาย เช่น พระขุนแผน กรุวัดบ้านกร่าง จังหวัดสุพรรณบุรี   พระขุนแผนไข่ผ่าซีก กรุวัดพระรูป จังหวัดสุพรรณบุรี  พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดใหญ่ ชัยมงคล จังหวัด อยุธยา  พระขุนแผนกรุโรงเหล้า จังหวัด อยุธยา เป็นต้น...     

พระขุนแผนเคลือบ สวยๆ พิมพ์ แขนอ่อนจากกรุบ้านกลิ้ง สภาพองค์จริง

                     พระขุนแผนเคลือบกรุวัดบ้านกลิ้ง พิมพ์แขนอ่อน

พระขุนแผนเคลือบ กรุวัดบ้านกลิ้งพิมพ์แขนอ่อน

 

Believed to have spiritual power,พระขุนแผนเคลือบกรุ วัดบ้านกลิ้ง,พิมพ์ใหญ่ ฐานสูง ลงรักชาติ ปิดทองมาดั้งเดิมจากกรุ

***-พระขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่เป็นฐานสูง-***สนใจติดต่อ  062-226-4845 คุณตี๋

กรุวัดบ้านกลิ้ง จ. อยุธยา  ที่จริงแล้วพระองค์นี้เป็นพระขุนแผนเคลือบนํ้ายาสีเหลืองเหมือนองค์อื่นๆ แต่องค์นี้จะมีความพิเศษกว่าองค์อื่นตรงที่ พระองค์นี้มีการลงรักชาติปิดทองด้วยครับ ส่วนด้านหลังขององค์พระก็จะเป็นหลังแบบลายมือครับ หรือที่คนรุ่นเก่าท่านนิยมเรียกว่าหลังแบบ  "อังคุตร"   (นิยม) ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าลายมือของคนโบราณจะลายเส้นใหญ่กว่าคนยุคปัจจุบันอย่างเห็นได้ชัด นี่ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งในการพิจารณาแบบง่ายๆ ก็เหมือนกันกับพระผงสุพรรณเรามักจะเห็นลอยนิ้วมือปรากฏอยู่ด้านหลัง <<< แต่ถ้าเราสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าลอยนิ้วมือจะใหญ่กว่าลอยนิ้วมือของคนในยุคปัจจุบันอย่างมากเลย>>> จนกระทั่งมีคนที่ทำพระผงสุพรรณปลอมในยุคก่อนต้องใช้หัวแม่เท้าของตัวเองกดลงด้านหลังของพระผงสุพรรณนั่นเองถึงจะดูลายเส้นใหญ่เหมือนคนโบราณ เพราะคนโราณยุคก่อนมีรูปร่างใหญ่มากครับ แต่ที่จริงแล้วคนส่วนมากใครหล่ะจะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้ถ้าไม่ใช่ผู้ใฝ่รู้จริงๆ แต่ผมเชื่อว่าต้องมีผู้รู้เรื่องในลักษณะเช่นนี้อยู่เช่นกัน เห็นไหมล่ะครับ แค่เราเข้าใจเรื่องลายนิ้วมือแค่นี้เองก็ทำให้เราหายสงสัยกันได้ตั้งเยอะเลย ถ้าเราสังเกตุดูดีดีแล้วก็เห็นได้อย่างชัดเจนเลยครับว่าใหญ่จริงๆ แล้วคราบที่ติดอยู่ด้านหลังขององค์พระ บางคนสงสัยว่าน่าจะทำคราบเอง บางคนก็บอกว่าเป็นคราบปูน มีหลายความคิดเห็นมากครับ แต่ฟังดูแล้วก็ตลกดีนะครับ เพราะความไม่เข้าใจนั่นเอง ผมจะเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานนะครับ นี่แหละครับที่คนรุ่นก่อนท่านเรียกว่าไขดิน แล้วก็มีคนสงสัยอีกว่าไขดินมันคืออะไรอีก  ไขดินก็คือ ในโลกของเราเนี่ยมันอุบัติขึ้นมานานหลายล้านปีแล้วแหละแต่ก็ไม่อาจบอกได้ว่านานเท่าไหร่แล้ว แต่ที่แน่ๆก็มีซากพืช ซากสัตว์ และซากสิ่งมีชีวิตต่างๆได้ตายทับถมกันมานาน มากจนบางแห่งเกิดเป็นนํ้ามัน บางแห่งก็เป็นก๊าซทำธรรมชาติ แล้วไขดินก็คือ ไขมันของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตทั้งน้อยใหญ่ที่ตายทับถมกันเป็นเวลานานแสนนานมากๆ วิธีสังเกตุง่ายๆให้ดูในช่วงที่มีนํ้าท่วม เวลานํ้าลดท่านจะเห็นคราบไขดินที่ละเอียดจะจับตามกระจกบ้าง  ตามเสื่อนํ้ามันบ้าง  ท่านลองเอามือไปถูดูจะเป็นฝุ่นละเอียดมาก  ละเอียดแบบแป้งที่เราใช้ทาเลยครับ  และมักจะมีกลิ่นหอมนวลคล้ายๆกลิ่นไอดิน  ในช่วงต้นฤดูฝนเลย  ลักษณะที่บรรยายมานี้แค่นํ้าท่วมสามถึงสี่วันก็จะปรากฏไขดินในลักษณะเช่นนี้ครับ  ***แล้วให้จินตนาการนึกภาพดูว่าพระที่อยู่ในกรุทั้งร้อนอบอ้าว  กาลเวลาหลายปี  แถมยังมีนํ้าท่วมขลังอยู่ ทำไมไขดินที่เกิดขึ้นในพระกรุจึงมีความแข็งแกร็งมาก แต่เมื่อเราแกะทำไมมีความแข็งแกร็งก็เพราะว่าไขดินใช้เวลาทับถม สะสมมาเป็นเวลาหลายปีและบวกกับความร้อนเย็นที่อยู่ในกรุ ก็เลยทำให้ไขดินมีความแข็งตัวมากเป็นพิเศษ มีความแข็งแกร็งคล้ายกันกับหินปูนเลยครับ แต่เมื่อเราบดขยี้ด้วยของแข็งก็จะกลายเป็นฝุ่นแป้งละเอียดมากเลย  นี่เป็นหลักความจริงที่คนส่วนมากไม่ค่อยรู้จัก  เมื่อเห็นพระมีคราบในลักษณะที่กล่าวมาก็เข้าใจว่าของเก๊ โดยที่ไม่มีความรู้ในเรื่องไขดิน  กระผมก็ได้อธิบายมาพอสมควรแล้ว ไว้โอกาสหน้าจะหาเกร็ดความรู้ใหม่ๆมาฝากนะครับ